ใครที่มักประสบกับปัญหาการอ่านหนังสือช้า อ่านหนังสือสอบไม่ทัน ซื้อหนังสือมาหลายเล่ม อยากอ่านไปหมดทุกเล่มแต่จนทุกวันนี้ก็ยังกองพะเนินจนฝุ่นจับ ก็ยังไม่ได้อ่าน หรืออ่านไม่หมด อยากอ่านหนังสือให้จบเล่มได้มากขึ้น วิธีหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ให้เราได้ นั่นคือ “การอ่านเร็ว” การอ่านหนังสือเร็วจะมีประโยชน์กับคุณเป็นอย่างยิ่ง หากเราจำเป็นต้องอ่านข้อมูลจำนวนมากอยู่เสมอ หรือต้องการอ่านหนังสือให้ได้จบเล่มเป็นจำนวนที่มากขึ้นกว่าเดิม โดยที่เรายังคงเก็บใจความได้ครบถ้วน ไม่ตกหล่นประเด็นสำคัญไป ซึ่งทักษะการอ่านเร็วนี้เราสามารถฝึกฝนได้ด้วยตนเอง โดยหาหนังสือมาอ่านเพื่อเพิ่มทักษะด้านนี้ได้ ซึ่งถ้าอยากจะฝึกตัวเองให้อ่านเร็วได้ถึงระดับมืออาชีพ ก็ต้องลงทุนใช้เวลาหาแหล่งฝึกทักษะกันอย่างจริงจัง แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีวิธีง่าย ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการอ่านให้เร็วขึ้นได้ครึ่งถึงหนึ่งเท่าตัวเลยทีเดียว ต่อไปนี้คือคำแนะนำสำหรับใครที่ต้องการฝึกฝนเพิ่มทักษะการอ่านเร็ว ให้ได้ลองนำไปใช้กัน
โดยเฉพาะก่อนเริ่มอ่านข้อมูลมาก ๆ ให้หลับตาลงจินตนาการเห็นภาพตัวเองกำลังอ่านอย่างรวดเร็วและจดจำข้อมูลได้แม่นยำ เมื่อลืมตาขึ้นมา สมองจะมีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานเบื้องหน้าและพร้อมทำงานเต็มที่ ขั้นตอนนี้ใช่เวลาไม่เกิน 60 วินาที แต่จะเพิ่มความเร็วในการอ่านให้ได้อย่างผิดหูผิดตา
ข้อนี้อาจแก้ยากสำหรับใครหลายคน เพราะอาจเป็นพฤติกรรมการอ่านที่ทำมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก การอ่านออกเสียงเป็นคำ ๆ ตามสิ่งที่เราอ่านจะใช้เวลานาน สมองอันเก่งฉกาจของเราสามารถเก็บคำได้รวดเร็วกว่าที่เราจะพูดทัน ดังนั้นการอ่านออกเสียงเป็นคำ ๆ จึงทำให้เราอ่านได้ช้าลง ต้องฝึกมาก ๆ จึงจะแก้พฤติกรรมนี้ไดเ อาจต้องใช้วเลาหลายเดือน แต่เมื่อทำได้แล้วก็จะเป็นทักษะที่ติดตัวไปตลอด
อุปกรณ์ชี้ตำแหน่งที่ว่านี้อาจจะเป็นมือของเราเอง การ์ด ไม้บรรทัด หรืออะไรก็ได้ที่นำมาปรับใช้เพื่อช่วยเร่งสปีดการอ่าน เพียงแค่ลากมือขวาลงมาตามความยาวของหน้ากระดาษ แล้ว”ไล่อ่านตามความเร็วของมือ” โปรดสังเกตว่า ไม่ใช่ “ไล่มือตามจังหวะการอ่าน” แต่ต้องสร้างจังหวะให้สายตาไล่ตามจึงจะถูกต้อง หากเราถนัดซ้ายก็ให้ใช้ข้างซ้ายที่ถนัดที่สุด
แต่หากต้องการใช้มือกวาดตามขวางไปตามบรรทัดก็ได้ ถ้าเลือกใช้วิธีนี้ ให้กวาดเร็ว ๆ เบา ๆ ประหนึ่งกำลัง “สัมผัส” รับรู้ถ้อยคำผ่านปลายนิ้ว หรือหากเราใช้ไม้บรรทัดหรือการ์ด ปิดข้อความบรรทัดถัดไป ให้เคลื่อนการ์ดลงมาอย่างนุ่มนวลต่อเนื่องและพยายามกระตุ้นให้สายตาตามทัน โปรดสังเกตอีกครั้งว่าคุณเลื่อนการ์ดก่อนแล้วสายตามจึงตามไป เราไม่ได้ทำเช่นนี้เพื่อจะเตือนตัวเองว่าอ่านถึงไหนแล้ว
เราอาจประหลาดใจไม่น้อยหากรู้ความจริงว่าคนเราย้อนกลับไปอ่านประโยคหรือย่อหน้าที่ผ่านไปแล้วบ่อยแค่ไหน ทั้งที่ไม่จำเป็นเลย ก็เพราะว่าตัวหนังสือยังคงอยู่ให้เราวกกลับไปอ่านได้ตลอด แต่หากสมมุติว่าเมื่อเราอ่านผ่านไปแล้วตัวหนังสือเหล่านั้นหายไป เราก็จะต้องพยายามอย่างหนักที่จะจำข้อความที่อ่านนั้นให้ได้ตั้งแต่อ่านครั้งแรก เมื่อจับได้ว่าตัวเองกำลังย้อนกลับไปอ่านของเก่า ให้ทักว่าจำเป็นหรือไม่ แล้วกลับมาเดินหน้าอ่านต่อไป
หากหนังสือที่เรากำลังอ่านอยู่ไม่ใช่หนังสือประเภทนิยาย ก็ไม่จำเป็นต้องอ่านครบทุกคำ อย่างเช่นข้อมูลรายงานต่าง ๆ เพียงกวาดตาอ่านให้ผ่านหัวข้อและข้อความสำคัญเราก็พอจะสรุปใจความได้อย่างรวดเร็ว และตัดสินใจได้ว่าต้องการจะอ่านรายละเอียดที่ตรงไหนหรือไม่ อ่านส่วนนั้นคร่าว ๆ อีกครั้งเพื่อดูว่ามีข้อมูลจำเป็นจริงหรือไม่
บางคนเข้าใจผิด คิดว่าการอ่านเร็วคือการอ่านข้าม อันที่จริงแล้วที่เราต้องอ่านเร็วก็เพื่อช่วยให้เก็บข้อมูลได้มากขึ้นในเวลาน้อยลงเท่านั้น ไม่ใช่ให้ได้ข้อมูลน้อยลง ในเวลาที่เร็วขึ้น ดังนั้นจึงไม่ควรอ่านข้าม หากรู้สึกว่าตัวเองอ่านได้เร็วแต่เหมือนขาดข้อมูลสำคัญไป ก็คงจะเป็นจริงอย่างนั้น ต้องลดความเร็วลงบ้างเพื่อเก็บเกี่ยวประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ให้ได้ครบถ้วน
การอ่านเร็วก็เหมือนกับทักษะอื่น ๆ ทุกชนิด ยิ่งฝึกบ่อยก็จะยิ่งเชี่ยวชาญมากขึ้น
อย่างไรก็ตามการอ่านเร็วไม่ควรสร้างความเครียดโดยไม่จำเป็นหรือทำให้เรารู้สึกเบื่อหน่ายหนังสือ แต่จะทำให้ประสบการณ์การอ่านของเราสมบูรณ์ขึ้น จะต้องเปิดโอกาสให้เราได้ซึมซับถ้อยคำและคติที่นักเขียนสอดแทรกไว้ได้มากขึ้น ไม่ใช่น้อยลง การอ่านเร็วถือเป็นเครื่องมือชิ้นหนึ่งที่จะช่วยประหยัดเวลาของเราได้ ที่สำคัญคือเราต้องรู้ว่า เราจะนำเทคนิคการอ่านเร็วนี้มาใช้เมื่อใด
ข้อมูลจาก ใคร? ขโมยเวลาของฉันไป